My name's MARK.

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเมืองไทย....สถานที่ท่องเที่ยว ทั่วไทย สถานที่ท่องเที่ยว ทั่วไทย ชมวีดีโอ โฆษณา ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กอดเมืองไทยให้หายเหนี่อย แล้วเราจะรู้ว่าเมืองไทยมีสิ่งงดงามอีกมากมาย ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=LQD69xwUXv4
ท่องเที่ยวเมืองไทย...เที่ยวบุญผะเหวดร้อยเอ็ด 2555 ททท.สำนักงานขอนแก่น ชวนเที่ยวงานบุญผะเหวดร้อยเอ็ดและงานข้าวหอมมะลิโลก 2555 2 - 4 มีนาคม 2555 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=9xi7GMQkAig
ท่องเที่ยวเมืองไทย... งานว่าวไทยและว่าวนานาชาติ 2555 ระหว่างวันที่ 9 - 11 มีนาคม 2555 ททท.สำนักงานเพชรบุรี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านเที่ยวงานเทศกาลว่าวไทยและว่าวนานาชาติ ณ ค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยภายในงานประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการและการแสดงว่าวไทย 4 ภาค การแสดงว่าวนานาชาติ, การแข่งขันว่าวจุฬา - ปักเป้า ว่าวจุฬาส่ายเร็ว, การแสดงว่าวผาดโผนประกอบดนตรี, ประกวดการประดิษฐ์ว่าวสร้างสรรค์, การแสดงว่าวบินกลางคืน, ว่าววิทย์ Kid สนุก, ระเบียงว่าวเล่าภาพ, ลมศิลป์, เล่นกับลม เรียนรู้การประดิษฐ์ว่าวด้วยตัวเอง และ ตลาดนัดว่าว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริม ได้แก่ กิจกรรม Kite Clean sea การแสดงเครื่องเล่นบังคับวิทยุ กิจกรรมเครื่องเล่นประหยัดพลังงาน และกิจกรรมแรลลี่ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ อ.ชะอำ และภายในงานยังมีการจัดประกวดออกแบบ Wind Garden ของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในการร่วมตกแต่งและประดิษฐ์สวนศิลป์ โดยใช้ว่าวและวัสดุต่างๆเป็นองค์ประกอบ ในรูปแบบของตัวเองตามแนวคิด "ชะอำ ว่าวและรอยยิ้ม" ซึ่งการจัดกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะช่วยสร้างสีสันและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าชมได้เ­ป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandkite.com และ facebook : Cha - am Kite Fest 2012 หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายกิจกรรม ททท. โทร.0-2250-5500 ต่อ 3476 ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0-3247-1005-6 และ Call Center 1672 ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=rdvPg6WpODM
ท่องเที่ยวเมืองไทย...เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2555 เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาแต่โบราณเป็นประเพณีที่แสดงออกถึงความงดงาม อ่อนโยน เอื้ออาทร เต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ความอบอุ่น และการให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของความเป็นไทยได้อย่างเด่นชัด โดยใช้น้ำสะอาดและกลิ่นหอมเป็นสื่อในการเชื่อมความรักและความสัมพันธ์ไมตรีอย่างดียิ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงสร้างสรรค์ให้เป็นจุดขายในระดับสากลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยที่เดิน­ทางเข้าไปยังพื้นที่จัดงานสงกรานต์ สามารถเข้าร่วมงานบุญและเล่นน้ำสงกรานต์ได้อย่างสนุกสนานประทับใจ โดยได้รณรงค์กิจกรรมในเดือนเมษายนนี้ ภายใต้แนวคิด "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์" ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันไปทั้ง ๔ ภาค www.songkran.net ที่มา http://youtu.be/yeqfnsBaXko
ท่องเที่ยวเมืองไทย...  เมืองจำลอง พัทยา




เมืองจำลองตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 143 เลยสี่แยก ตลาดนาเกลือ ประมาณ 500 เมตร เป็น สถานที่รวบรวมของโบราณสถาน และสถานที่สำคัญ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานพระราม 9 ปราสาทหินพิมาย ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีมินิยุโรป ซึ่งจำลองสถาปัตยกรรม ที่มีชื่อเสียง ของประเทศต่างๆ ทั่วภาคพื้นทวีปยุโรป และอเมริกา เช่นหอไอเฟล เทพี สันติภาพ แกรนแคนยอน ฯลฯ


   


เมืองจำลอง ก็เกิดขึ้นภายใต้แนวความคิดแบบเดียวกันนี้ โดยคุณเกษม เกษมเกียรติสกุล ซึ่งมีความสนใจ งานศิลปกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งยังได้มีโอกาสเดินทาง ไปทำธุรกิจ และทำท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ในหลายประเทศ และในส่วนนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ได้ไปเยือนแล้ว เกิดความ ประทับใจ จนกระทั่งได้มีโอกาสไปเที่ยวชมที่ Madurodum ประเทศเนเธอแลนด์ และ Window on China ประเทศ ไต้หวัน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้จำลองสถานที่ และสถาปัตยกรรมที่สำคัญของโลกมารวบ รวมไว้ในอัตราส่วน1:25 เพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม จึงได้เกิดความคิดว่าในเมืองไทยก็มีศิลปะที่มีความ สวยงามไม่แพ้กันรวมทั้ง สถาปัตยกรรม และโบราณสถานทางประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่ง


    


ซึ่งโอกาสที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะสามารถไปเที่ยวชมในทุกสถานที่นั้นมีน้อยมากแต่ถ้าเรา สามารถรวบรวมสถานที่สำคัญ ๆ เหล่านี้มาจำลองรวมไว้ใน ที่เดียวกัน โดยยังคงรักษารายละเอียดไว้ได้เหมือน สถานที่จริง คงจะทำให้นักท่องเที่ยวรวมทั้งนักเรียน นักศึกษาที่ได้ ้เข้าไปสัมผัส ได้รับรู้คุณค่า และความสวยงาม ของสถาปัตยกรรมไทยได้มากขึ้น หลังจากที่เกิดแนวคิดนี้ คุณเกษม เกษมเกียรติสกุล ได้ใช้เวลากว่า 5 ปีใน การเดินทางไปสำรวจและศึกษาสถานที่ สำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ตลอดจนยังต้องเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อศึกษา และรวบรวมงานศิลปกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ที่มีความโดดเด่น เพื่อนำสิ่งเหล่านั้นมา ถ่ายทอดผ่านผลงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ์ตามแนวคิดที่ได้ตั้งใจไว้ จนกระทั่งปี พ.ศ.2529 เมืองจำลองจึงเกิด ขึ้นภายใต้แนวคิดดังกล่าวที่ต้องการให้เป็นสถานที่ ี่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการในพื้นที่ 30 ไร่
Zone Mini Europe
ซึ่งจำลองสถาปัตยกรรม ที่มีชื่อเสียง ของประเทศต่างๆ ทั่วภาคพื้นทวีปยุโรปและอเมริกา เช่นหอไอเฟล เทพีสันติ ภาพ แกรนแคนยอน ฯลฯ



Zone Mini Europe

ซึ่งจำลองสถาปัตยกรรม ที่มีชื่อเสียง ของประเทศต่างๆ ทั่วภาคพื้นทวีปยุโรปและอเมริกา เช่นหอไอเฟล เทพีสันติ ภาพ แกรนแคนยอน ฯลฯ







Zone Mini Siam

เป็นสถานที่ รวบรวมของโบราณสถาน และสถานที่สำคัญ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานพระราม 9 ปราสาทหินพิมาย ฯลฯ











อัตราค่าเข้าชมเมืองจำลอง 

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00น. 
ราคา  (คนไทย) 150   บาท 
ราคา (ต่างชาติ) 250   บาท 
เด็กไทย (อายุตั้งแต่ 4 – 10 ปี) 50   บาท 
เด็กต่างชาติ 120 บาท 
เด็กความสูงไม่เกิน 120 ซม.ไม่คิดเงิน
สอบถามโทร             038 727 333  ,   038 727 666      
 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.minisiam.com

การแสดง 

มีการแสดงนาฏศิลป์ ทุกวัน เวลา 18.00 – 21.30 น. 
* นอกจากนี้ทางเมืองจำลองรับจัดงานเลี้ยงงานแต่งงาน งานพิธีต่าง ๆ งานประชุมสัมมนา หรืออาหารกลางวันและ อาหารเย็น สำหรับกรุ๊ปทัวร์ราคากันเอง
การเดินทางไปเมืองจำลอง
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว 
เมืองจำลองอยู่ติดถนนสุขุมวิทเมืองจำลองตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 143 เลยสี่แยก ตลาดนาเกลือ ประมาณ 500 เมตร
2. โดยรถโดยสารสาธารณะ
- ขึ้นรถตู้ที่จะไปพัทยาที่เซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัย ออกทุกชั่วโมง รถจะผ่านหน้าเมืองจำลองเลย









ท่องเที่ยวเมืองไทย...  ตลาดเก่าอ่างศิลา, พัทยา











อ่างศิลาในปัจจุบัน คนพื้นที่นี้ดั้งเดิมเรียกกันว่า อ่างหิน สมัยรัชกาลที่ 3 ชาวตะวันตกและคนบางกอก มาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น โดยมีหลักฐานบันทึกถึงชื่อ อ่างศิลา ดังนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา อ่างศิลา ตอนหนึ่งว่า เรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรี อยู่ 2 แห่งๆหนึ่งลึก 7 ศอก กว้าง 7 ศอก ยาว 10 วา แห่งหนึ่งลึก 6 ศอก กว้าง 1 วา 2 ศอก ยาว 7 วา เป็นที่ขังน้ำฝน น้ำฝนไม่รั่วซึมไปได้ ท่านเจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบตี เห็นว่าเป็นประโยชน์กับคนทั้งปวงจึงให้หลวงฤทธิ์ศักดิ์ชลเขตร ปลัดเมืองชลบุรี เป็นนายงานก่อเสริมปากบ่อกั้นน้ำ มิให้น้ำที่โสโครกกลับลงไปในบ่อได้ ราษฎร ชาวบ้านและชาวเรือไปมาได้อาศัยใช้น้ำฝนในอ่างศิลานั้น บางปีถ้าฝนตกมาก ถ้าใช้น้ำแต่ลำพังชาวบ้านก็ได้ใช้น้ำทั้งสองแห่งและบ่ออื่นๆ บ้างพอตลอดปีไปได้ บางปีฝนน้อย ราษฎรได้อาศัยใช้แต่เพียง 5 เดือน 6 เดือน ก็พอหมดน้ำในอ่างศิลา แต่น้ำในบ่อแห่งอื่นๆ ที่ราษฎรขุดขังน้ำฝนไว้ใช้นั้น มีอยู่หลายแห่งหลายตำบล ถึงน้ำในอ่างศิลา สองตำบลนี้แห้งไปหมดแล้วราษฎรก็ใช้น้ำบ่อแห่งอื่นๆ ได้จึงได้เรียกว่า บ้านอ่างศิลา มาจนถึงทุกวันนี้
 
 
 
ตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ได้แบ่งออกเป็น4 โซน ประกอบด้วย
โซนที่ 1 เข้าวัดอ่างศิลา ชมความมหัศจรรย์วัด 2 โบสถ์ วัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 309 ปี ชมแหล่งประวัติศาสตร์ศิลปกรรมท้องถิ่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ใช้เทคนิคการตัดเส้นที่ดีและสวนที่สุดในประเทศไทย มณฑปและรอยพระพุทธบาท เจดีย์เก่าสมัยอยุธยาตอนปลาย นมัสการหลวงพ่อหิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวอ่างศิลา วิหารท่านเจ้าคุณพระ วิสุทธิสมาจาร

โซนที่ 2 บริเวณพระตำหนักมหาราช ท่านจะได้ชมพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการภาพเก่าเล่าขานชมตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ศาลเจ้าปุนเฒ่ากง และศาลเจ้าปุนเฒ่าม่า เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารและขนมไทย อาหารทะเลสด

โซนที่ 3 ชมตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี ศาลเจ้าปุนเฒ่ากง และศาลเจ้าปุนเฒ่าม่า เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารและขนมไทย อาหารทะเลสด

โซนที่ 4 ชมศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ ชมวังค้างคาว ฟาร์มหอยบนสะพานที่ทอดยาวไปในทะเลกว่า 10 กิโลเมตร

ตลาดเก่าอ่างศิลา133 ปี เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ระหว่างเวลา 10.00 - 19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะกรรมการตลาดเก่า
 อ่างศิลา133 ปี โทร.0 3839 8497 , 08 0993 6743    


ที่มา  http://www.thai-tour.com/thai-tour/East/chonburi/data/place/pic-marketangsila.htm
ท่องเที่ยวเมืองไทย...  บางแสน ชลบุรี






สัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดชลบุรี เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านอ่างศิลา และหาดบางแสน เชิงเขาเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป บริเวณเขาสามมุขมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากขับรถไปขึ้นไปบนเขาจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลบางแสนได้สวยงาม

หาดบางแสน  อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิท  ตรงหลัก กม. 104 เข้าไป 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจึงสามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้
                การเดินทางจากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-บางแสน ออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน หรือ ขึ้นรถสายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทยในตัวเมืองชลบุรีแล้วต่อรถสองแถวไปยังหาดบางแสน





ท่องเที่ยวเมืองไทย....  ปราสาทสัจธรรม








 
          ปราสาทสัจธรรม   คือ  ศิลปสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ ซึ่งเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ และความหมายในด้านนามธรรม  ได้สะท้อนและสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและ ปรัชญาซึ่งเป็นสิ่งค้ำจุนโลก   และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ  ปรัญชาในการมุ่งสู่ความหลุดพ้นสู่โลกหน้าในอุดมคติ ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม     ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้อุบัติขึ้นจากความสำนึก
ของคนตะวันออก  ที่ว่าความเป็นมนุษย์ที่ผ่านมานับพันปีเป็นสิ่งที่จรรโลงโลกมาได้ด้วยสัจธรรมทางศาสนา  และปรัชญาโดยมีศิลปะเป็นสื่อ
เนื้อหา     และความหมายไม่ใช่เป็นสิ่งที่คิดขึ้นใหม่ด้วยความอหังการ์หากได้นำเอาสิ่งที่ดีงามที่มีอยู่ในศาสนา  และปรัชญา  และศิลปกรรม
มาปรุงแต่งให้เหมาะสมกับกาลเทศะ

ปราสาทไม้สัจธรรม ได้รับรางวัลดีเด่นจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นครื่องการันตีความอัจจรรย์การสร้าง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ปราสาทไม้สัจธรรม เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand

หมายเหตุ :
- นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าชม 500 บาท ราคาคนไทยและต่างชาติราคาเดียว
- มีกำหนดเข้าชมเป็นรอบ
- เปิดบริการ 8.00 น. - 18.00 น. (ทุกวัน)




ที่มา  http://www.thai-tour.com/thai-tour/east/chonburi/data/place/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวเมืองไทย... ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา












เป็นตลาดเปิดใหม่ ย้อนยุค ณ ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชขาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม แล้วยังได้นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งของแม่น้ำ รวมไปถึงสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในการค้าขาย ทางน้ำ ในที่ตลาดน้ำ 4 ภาค ท่านยังได้พบกับร้านค้าเรือนไทยด้วยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละโซนภาคในประเทศไทยจะสังเกตุง่าย ๆ คือ หน้าจั่วที่มี ลักษณะแตกต่างกันเช่น เรือนภาคเหนือ มีเอกลักษณะพิเศษคือ กาแลไม้แกะสลัก อย่างงดงาม มีจำนวน 43 หลัง ซุ้มลีลาวดี และซุ้มกล้วยไม้จะเป็นจุดสำหรับพักผ่อน แล้วยังรวมไปถึงลานล้อที่เป็นลาน "กิจกรรมการแสดงของภาคเหนือ" เรือนภาคกลางจะตกแต่งบนยอดจั่วที่เรียกว่า "ปั้นลม" มีจำนวนรวม 31 หลัง มีลานของการแสดงอยู่ 2 ลานจะได้แก่ ลานเถิดเทิง และลานบางระจัน, ต่อมาคือเรือนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ (ภาคอีสาน) ยอดของจั่วจะเป็นรูปรัศมีสีของพระอาทิตย์เรืองรอง เรียกว่า "ยอดธง" ประกอบด้วยเรือน 22 หลัง แล้วยังมีลานของหมอลำเป็นการแสดง, เรือนสุดท้ายคือ เรือนของภาคใต้ มียอดจั่วที่เรียกว่า ปีกผีเสื้อ ประกอบด้วยเรือนจำนวน 15 หลัง มีซุ้มเฟื่องฟ้า ลานเบตง และลานโนราห์ เป็นลานกิจกรรมการแสดง

ความตั้งใจจริงเพื่อให้ตลาด น้ำ 4 ภาค(พัทยา) แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทยเรียน รู้วิถีชีวิตพอเพียงที่สัมผัสได้ รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ให้ครอบคลุมในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ การค้า การแสดง การกิน รวมทั้งงานทางด้านหัตถกรรมต่าง ๆ ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรือง และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สมควรได้รับการดูและ และคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่นานเท่านาน โครงการตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งเดียวที่จะคง ไว้ซึ่งวิถึชีวิตคนไทยที่ยึดแนวแล้วเดินตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยา รวมไปถึงสร้างทัศนคติความประทับใจกับผู้มาเยือน

แต่สำหรับสินค้าทั้ง 4 ภาค ที่มีให้ท่านซื้อเป็นของฝาก หรือว่าจะซื้อนำกลับบ้าน ก็จะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตของแต่ละภาค โดยทางภาคอีสาน โดดเด่นในกลุ่มสินค้าผ้าไหมหมัดหมี่ ผ้าไม่แพรวา เทียนหอม หมอนอิง, ภาคเหนือ จะเป็นสินค้างานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ผ้าพื้นเมิงลวดลายงดงามวิจิตร ผ้าไหม และร่มกระดาษ, ภาคใต้สินค้าเลื่องชื่อได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวผ้าบาติก เรือไม้จำลอง, และภาคสุดท้ายสำหรับภาคกลาง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์หวาย กระเป๋าสาน เครื่องประดับ

ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทย แห่งใหม่ที่อยู่ท่ามกลางใจเมืองพัทยา สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่ได้จำลองวิธีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาวไทยที่เรียบง่าย เรียนรู้วิถีพอเดียงดั้งเดิมที่ผู้พันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตกาลสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ของทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉัยงเหนือ(ภาคอีสาน) และ ภาคกลาง




ที่มา   http://www.thai-tour.com/thai-tour/east/chonburi/data/place/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B34%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84/

สถานที่ท่องเที่ยว อ.เมือง จ.ภูเก็ต



แหลมกา อยู่ห่างจากตัวเมือง 16 กิโลเมตรจากห้าแยกฉลองตรงไปถนนวิเศษ ก่อนถึงหาดราไวย์ทางซ้ายจะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นหาดที่สงบเงียบหาดทรายขาวสะอาดมีโขดหินเรียงราย ทะเลเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ

อ่าวฉลอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไป 11 กิโลเมตรไปตามถนนเจ้าฟ้า ถึงห้าแยกอ่าวฉลอง เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 1 กิโลเมตร ชายหาดเป็นรูปโค้งยาวเหยียด ทะเลบริเวณนี้ ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลเนื่องจากชายหาดเป็นทรายเป็นโคลน แต่เหมาะสำหรับการจอดเรือ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าเรือไปตามเกาะต่างหรือเรือยอร์ชส่วนตัว

หาดราไวย์ อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตรตามเส้นทางจากห้าแยกฉลอง ตรงไปตามถนนวิเศษ ก็จะถึงหาดราไวย์มีหมู่บ้านชาวเลอยู่ทางด้านซ้ายของหาด บริเวณริมหาดมีเรือประมง และเรือให้นักท่องเที่ยวเช่าไปเกาะต่างๆ อาทิเกาะเฮ เกาะบอน เกาะรายา เกาะรายา เกาะแก้วพิสดาร เป็นหาดที่สามารถเล่นน้ำได้เนื่องจากคลื่นลมไม่แรง

แหลมพรหมเทพ อยู่ห่างจากหาดราไวย์เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่มีหน้าผาสูงอยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต เดิมชาวบ้านเรียกแหลมนี้ว่า "แหลมเจ้า" จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่แหลมที่เป็นโขดหิน มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกตเป็นกระแสน้ำวนและลึก ไกลออกไปจะเห็นเกาะแก้วพิสดารอยู่ด้านหน้าแหลม และทางขวาจะมีถนนตัดไปหาดในหาน แหลมพรหมเทพนับเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สายงามมากแห่งหนึ่ง




จุดชมวิว จากหาดในหานไปหาดกะตะน้อยตามเส้นทางถนนรอบเกาะ จุดชมวิวจะอยู่ระหว่าง 2 หาดนี้จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งอ่าวถึง 3 อ่าว คือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก




หาดกะตะ อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนสายเจ้าฟ้าเมื่อถึง 5 แยกฉลองเลี้ยวขวาไปตามถนนปฎัก หาดกะตะแบ่งเป็น 2 หาดคือหาดกะตะ และหาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำและใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังต่อกันไปจนถึงเกาะปู ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะเป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สถานที่พักตากอากาศ บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิงต่างๆไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว




หาดกะรน อยู่ห่างจากหากะตะไปตามทางทิศเหนือตามถนนซึ่งแยกจากหาดกะตะ 3 กิโลเมตรเป็นหาดทรายขาดละเอียด ทอดตัวไปในแนวยาวจนสุดหาด และเป็นหาดหนึ่งที่มีสถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า จำนวนมากสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เช่นเดียวกับหาดกะตะ




หาดในหาน จากแหลมพรมเทพเลี้ยวขวาไปตามถนนสายรอบเกาะก็จะถึงหาดในหาน ซึ่งห่างจากตัวเมือง 18 กิโลเมตรชายหาดมีความยาวไม่มากนัก มีหาดทรายขาวสะอาดและค่อนข้างเงียบสงบ ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม มีคลื่นลมแรงไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ

อ่าวเสน เป็นอ่าวเล็ก ๆ ติดกับหาดในหานไปทางขวาผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ เป็นชายหาดเล็ก ๆ ที่สงบมีโขดหินน้อยใหญ่หาดทรายขาวสะอาด

เกาะโหลน เป็นเกาาะใหญ่ทางตอนใต้อยู่ใกล้อ่าวฉลองเดินทางได้ด้วยเรือโดยสารจากอ่าวฉลอง ใช้เวลาเพียง 20 นาที บนเกาะมีหมู่บ้านชาวปะมงและสถานที่พักสำหรับบริการนักท่องเที่ยว

เกาะเฮ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแหลมพันวาเป็นเกาะหนึ่งในเขตรักษาพืชพันธุ์ของกรมประมง เดินทางได้ด้วยเรือโดยสารทั้งจากหาดราไวย์ และอ่าวฉลอง หรือติดต่อบริษัทนำเที่ยวในลักษณะของ PACKAGE TOUR บนเกาะมีหาด 2 หาดอยู่ทางด้านเหนือ และด้านตะวันออก เป็นหาดทรายขาวละเอียด มีแนวปะการังจากหาดไปจนถึงระยะ 100 เมตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของปะการังในบริเวณนี้เกาะเฮจึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า "CORAL ISLAND" และเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำ บนเกาะมีที่สถานที่พัก ร้านอาหาร และกีฬาทางน้ำบริการนักท่องเที่ยว จากห้าแยกฉลอง ตราไปตามถนนวิเศษ ก็จะถึงหาดราไวย์มีหมู่บ้านชาวเลอยู่ทางด้านซ้ายของหาด บริเวณริมหาดมีเรือประมง และเรือให้นักท่องเที่ยวเช่าไปเกาะต่างๆ อาทิ เกาะเฮ เกาะบอน เกาะรายา เกาะแก้วพิสดาร เป็นหาดที่สามารถเล่นน้ำได้เพราะชายฝั่งตื้นคลื่นลมไม่แรง

เกาะแก้วพิสดาร อยู่ทางตอนใต้ของแหลมพรหมเทพและห่างจากฝั่งหาดราไวย์ 3 กิโลเมตร นั่งเรือจากหาดราไวย์ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะถึงเกาะซึ่งมีธรรมชาติที่สวยงามด้วยแนวปะการัง หาดทรายขาวสะอาด นอกจากนี้บนเกาะยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย

หมู่เกาะราชา หรือหมู่เกาะรายา ประกอบด้วยเกาะ 2 เกาะเรียงกัน 2 เกาะในแนวตะวันตกเฉียงใต้ - ตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต 
- เกาะราชาใหญ่ มีหาดทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้ายเกือกม้า เรียกบริเวณนั้นว่า "อ่าวตะวันตก" หรือ "อ่าวบังกะโล" มีหาดทรายขาดละเอียด น้ำทะเลใสสะอาดลักษณะคล้ายน้ำทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลัน บนยอดเขาทางใต้ของเกาะ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะได้ทั้งหมด ส่วนทางตะวันออกของอ่าว "ขอนแค" เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการังจุดหนึ่ง 
- เกาะราชาน้อย อยู่ห่างเกาะราชาใหญ่ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเกาะที่เกิดจากการทับถมของหินปะการัง จึงมีโขดหินมากกว่าหาดทราย ทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นเป็นอ่าวเล็กสำกรับจอดเรือ น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำแต่เหมาะแก่การตกปลา การเที่ยวชม สามารถเดินทางได้ในช่วงฤดูที่ไม่มีมรสุม โดยติดต่อเช่าเรือหางยาว จากท่าเรือฉลอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงหรือติดต่อบริษัทนำเที่ยว ใช้เรือเร็วประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืนมีสถานที่พักบริการบนเกาะราชาใหญ่




เกาะไม้ท่อน เป็นเกาะที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีหาดทรายที่ขาวสะอาดน้ำทะเลใส เหมาะแก่การว่ายน้ำ ตกปลา บนเกาะมีรีสอร์ทให้พักค้างคืน หรือจะไปเช้าเย็นกลับก็ได้ มีเรือบริการจากท่าเรือน้ำลึก จังหวัดภูเก็ต



เกาะตะเภาใหญ่ เป็นเกาะทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรืออ่าวมะขามเพียง 10 นาที บนเกาะมีนกเงือกอาศัยอยู่ มีร้านอาหารและที่พักไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว

เกาะรังใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต เป็นเกาะเล็กๆ เงียบสงับเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของ ฟาร์มมุก นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจอีกเช่น พายเรือแคนนู ปั่นจักรยานรอบเกาะ มินิกอล์ฟ

เกาะสิเหร่ มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต มีคลองท่าจีนคั่นระหว่างเกาะทั้ง 2 มีสะพานเชื่อมติดต่อถึงกันโดยสะดวก เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่บนยอดเขาที่วัดเกาะสิเหร่ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเลที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ตที่บริเวณแหลมตุ๊กแก สำหรับชายหาดที่ไม่เหาะแก่การเล่นน้ำเนื่องจากเป็นหาดทรายปนโคลน แต่เป็นท่าเรือสะพานปลาของภูเก็ต





วัดฉลอง อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 8 กิโลเมตร จากสนามกีฬาสุระกุลเลี้ยวซ้ายไปห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ก่อนถึงห้าแยกประมาณ 4 กิโลเมตรเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือชาวบ้านต่อสู้กับพวกอั้งยี่ที่คิดกบฎเมืองภูเก็ตเป็นผลสำเร็จเมื่อ พ.ศ. 2419 ในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อหลวงพ่อเกลื้อม หลวงพ่อช่วง เจ้าอาวาสวัดในสมัยต่อมา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ตโดยทั่วไป




เขารัง อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือไม่ห่างจากตัวเมืองเท่าไรนัก เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ มีสวนสุขภาพ และสวนสาธารณะ สำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้บนยอดเขา ยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองภูเก็ตได้อีกด้วย



ตึกโบราณ อาคารภายในตัวเมืองภูเก็ต ส่วนมากเป็นตึกซึ่งสร้างขึ้นสมัยเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่กิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ ๆ ตึกเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมผสานกับตะวันตก หรือที่เรียกว่าสถาปัตยกรรมแบบ"ชิโน-โปรตุกีส" โดยมีลักษณะตัวอาคารที่มีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้าง หน้าต่างประตูเป็นไม้ลายฉลุ ปัจจุบันจะพบเห็นตึกเหล่านี้บริเวณ ถนนพังงา ถนนถลาง ถนนเยาวราช ถนนดีบุก และถนนกระบี่ นอกจากนี้ยังมีตึกโบราณที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ศาลจังหวัดภูเก็ต และธนาคารนครหลวงไทย เป็นต้น




สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ตั้งอยู่ที่แหลมพันวา เป็นสถานที่รวบรวมพัรธุ์สัตว์น้ำกว่า 100 ชนิด เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น. อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 108 ซม. และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ติดต่อสอบถามได้ที่โทร (076) 391126      

สวนผีเสื้อและอควาเรียมภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 3 กิโลเมตร ไปตามถนนเยาวราช ผ่านโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกหมู่บ้านสามกอง เป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์สิ่งวิชิตเขตร้อนจำพวกผีพวกเสื้อแมลง และปลานานาชนิด เปิดบริการทุกวันเวลา 9.00-17.00 น.ค่าเข้าชมสำหรับคนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท และชาวต่างประเทศเด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 120 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มที่ โทร             (076) 215616       ,210861

หมู่บ้านไทยและสวนกล้วยไม้ภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 3 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกษัตรี จะมีป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านไทย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ภายในมีการแสดงนาฎศิลป์ และศิลป์หัตกรรมไทย การแสดงช้าง การสาธิตการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม และสวนกล้วยไม้ การแสดงจะเริ่มรอบเช้าเวลา 11.00 น. และรอบเย็นเวลา 17.30 น. ค่าเข้าชมการแสดงสำหรับชาวไทยผู้ใหญ่ 50 บาท,เด็ก 25 บาท ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 230 บาท เด็ก 120 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่             (076) 214860    

สวนสัตว์ภูเก็ต อยู่ระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองไปอ่าว ฉลองแล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยป่าหล่าย ถนนเจ้าฟ้า ในสวนสัตว์ มีสัตว์นานาชนิด อาทิ เสือชนิดต่างๆ นกชนิดต่างๆ กวางม้าลาย อูฐ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงช้างและจรเข้ สวนสัตว์เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.30-18.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ชาวไทย 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.phuketzoo.com




สะพานหิน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในตัวเมืองตั้งอยู่สุดถนนภูเก็ต ติดชายฝั่งทะเลเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2512 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่กัปตัน เอ็ดเวิร์ด โธมัสไมล์ ชาวออสเตรเลีย ผู้นำเรือขุดแร่มาใช้ขุดดีบุกเป็นลำแรกเมื่อ พ.ศ. 2452 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กีฬาสะพานหินด้วย





ที่มา  http://www.andamanonline.com/th/phuket/Phuket_Muang.php
ท่องเที่ยวเมืองไทย...นำเสนออาหารขึ้นชื่อของเรณูนคร "ขนมจีนน้ำปลาร้านัว" ขนมจีนน้ำปลาร้านัว อร่อยล้ำเหลือ..ห้าแยก เรณูนคร จ.นครพนม ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=7-nqaN9x9Cg&feature=related

ท่องเที่ยวเมืองไทย......ชมดอกซากุระบานในเมืองไทยที่ดอยขุนแม่ยะ




ดอกซากุระที่ว่าเนี่ย ก็คือ ดอกพญาเสือโคร่ง ณ ขุนแม่ยะ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร อาณาเขตพื้นที่ราว 87,500 ไร่ โดยพื้นที่ ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา–แม่แสะ ในช่วงแรกขุนแม่ยะ เป็น ผืนป่าที่เสื่อมโทรม ถูกทำลายจนราบโล่ง แต่ต่อมาทางหน่วยได้เริ่มปลูกต้นพญาเสือโคร่งเพื่อเป็น การฟื้นฟูป่า ในช่วงแรกเนื่องจากต้นพญาเสือโคร่ง เป้นต้นไม้ที่เจริญเติบโตเร็วและยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วยจนทุกวันนี้ต้น พญาเสือโคร่งเป็นที่รู้จักกันนามของ ดอกซากุระเมืองไทย ที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด ฤดูหนาวนี้เพื่อน ๆก็หาโอกาสไปเที่ยวชมดอกซากุระบานในเมืองไทยกันนะ อิอิ ส่วนเรื่องที่พักไม่ต้องห่วงที่นั่นเค้ามีพื้นที่ให้กางเต้นท์นอน แต่ต้องเตรียมไปเองนะ แต่ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ชอบนอนเต้นท์ ก็ลองหาที่พักละแวกใกล้ ๆ ดอยขุนแม่ยะดู  แล้วค่อยขับมอไซด์ชมเมืองไปเรื่อย ๆ  แต่ถ้าใครยังไม่รู้จะหาที่พักจากที่ไหนก็ลองหาได้ที่ http://www.zizzee.com  เว็บนี้สามารถเลืองที่พักโดยการระบุทำเลที่เราต้องการพักได้ด้วย ง่ายต่อการหาที่พักในละแวกดอยขุนแม่ยะจริงๆเลยล่ะ ลองดูนะ



ที่มา  http://forum.thaiza.com/travel/%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2/92963/

ท่องเที่ยวเมืองไทย......  "ดำน้ำเกาะแหวน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม"


อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอาณาจักรพะยูนฝูงสุดท้าย เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมอยุ่ในท้องที่อำเภอสิเกา และอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 






เกาะแหวน

     อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตั้งอยู่ทางทะเลอันดามัน ประกอบด้วยป่าชายเลน หญ้าทะเล เกาะแก่ง มีหาดทรายขาวนวลเรียงยาวไปตามผืนแผ่นดินกว่า 20 กิโลเมตร และสนทะเลตามธรรมชาติอันสวยงาม 

     อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ประกอบไปด้วยกลุ่มเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะม้า เกาะเชือก และเกาะแหวน เป็นกลุ่มเกาะเล็กๆ กลางทะเลตรัง เป็นจุดดำน้ำตื้นชมปะการังที่บรรดาแพ็กเกจท่องเที่ยวของที่พักต่างๆ ทั่วทั้งทะเลตรังมุ่งมาชมเพราะปะการังใต้น้ำที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะ 




เกาะแหวน

     ด้วยสภาพน้ำทะเลใสจนเห็นปะการังอ่อนสีแดงกลุ่มก้อนใหญ่ๆ กัลปังหาต้นเล็กๆ สีเหลืองขลิบแดงหรือสีแดงมากมาย ไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่อาจจะมีแต่ปะการังแข็ง แต่ปะการังแข็งและฝูงปลาของที่นี่ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ภาพที่เห็นกันจนชินตาแทบทุกวันในแถบนี้ก็คือ ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากถูกปล่อยลงไปดำผุดดำว่ายชมปะการังกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ. 



ข้อมูลโดย : กรมการท่องเที่ยว 









ที่มา   http://travel.thaiza.com/%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1/238782/



 เที่ยวน้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)..


น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู 

น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู อีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อยู่ในเขตบ้านทุ่งนาเมือง ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี น้ำตกเรียกตามลักษณะของสายน้ำที่ตกผ่านลงรูหิน น้ำตกมีแหล่งต้นน้ำมาจากลำน้ำสาขาเล็กๆ ของแม่น้ำโขง 

      โดยส่วนที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์นั้น เรียกตามสายธารน้ำตก ที่โปรยละอองผ่านช่องหินลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์โดยเฉพาะในวันเพ็ญ ที่แสงจันทร์จะสาด ส่องมาตรงรูหินพอดี พร้อมกับละอองของธารน้ำตกที่โปรย ดูเป็นประกายสีนวลสวยงามมาก ซึ่งทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อและเสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บความงาม สงบประสานอย่างกลมเกลือนของธรรมชาติไว้ให้เป็นที่ประทับใจ 

      การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกลงรู หรือ น้ำตกแสงจันทร์ในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม 

      จากอำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปน้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรู ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เดินทางออกจากตัวเมือง ใช้ เส้นทางหมายเลข 4005 ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางหลายเลข 2222 อีกระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปใช้เส้นทางหมายเลข 4008 ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ต่อด้วยเส้นทางหลายเลข 2134 และ 2279 ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร 

      หลังจากนั้นวิ่งเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 2135 ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร ต่อด้วยเส้นทางหมายเลย 3262 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เดินทางไปตามเส้นทางอีก ประมาณ 15 กิโลเมตรก่อนจะเข้าสู่น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรูที่ต้องแยกขวาเข้าไปอีกเล็กน้อย 


ภาพ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) 







ท่องเที่ยวเกาะกระดาน เกาะสวยแห่งอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม..




เกาะกระดาน

เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดในท้องทะเลตรัง เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 อยู่ในความรับผิดชอบของ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม บนเกาะมีบริการที่พักและ ร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว รวมไปถึง บริการท่องเที่ยวทะเลตรังและแพกเกจทัวร์ 

      เกาะกระดาน เป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ บนเกาะมีที่พักบริการทั้ง ของเอกชน และกรมป่าไม้ การเดินทาง โดยเช่าเหมาเรือจากท่าเรือปากเมงหรือท่าเรือควนตุ้งกู หรือท่าเรือเจ้าไหม ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง 

      จุดเด่นของ เกาะกระดานคือชายหาดที่มีทรายขาว ละเอียดเหมือนแป้งและน้ำใสจนเห็นแนว ปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือ ถึงชายฝั่ง ด้านหลัง เกาะมีอ่าว เล็กๆ มีคลื่นลูกโตๆ เป็นระลอกๆ เหมาะสำหรับการเล่นกระดานโต้คลื่น เกาะกระดานอยู่ทาง ด้านตะวันตกของเกาะมุกต์ และเกาะลิบง 

      รอบเกาะมีชายหาดอยู่ 4 แห่งเกาะกระดานจึงเป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรังที่มีเกาะอื่นรายรอบเป็นบริวาร ชายหาดเป็นทรายขาวละเอียด น้ำใส จนมองเห็นริ้วทราย ใต้พื้นน้ำ สุดชายหาดด้านเหนือ มีแนวปะการังทอดยาวออกไปในทะเล บริเวณชายฝั่งเป็นปะการังน้ำตื้น 

      ชายหาดเกาะกระดาน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ มีชายหาดขาวยาวประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณด้านหน้าของชายหาด นักท่อง เที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง ซึ่งยาวตลอดแนวชายหาด จากชายหาดสามารถมองเห็นเกาะลิบง เกาะแหวน เกาะมุก และเกาะเชือก และยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ อีกด้วย 

      ชายหาดอ่าวเนียง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร ด้านหน้าชายหาดนักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำดูปะการัง ซึ่งมี ตลอดแนวชายหาด จากชายหาดนี้สามารถมองเห็นเกาะลิบงได้ 

      ชายหาดอ่าวไผ่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 200 เมตร ด้านหน้าของชายหาดไม่มีแนวปะการัง สามารถมอง เห็นเกาะเชือก เกาะแหวน เกาะมุก สามารถชื่นชมกับดวงอาทิตย์ตกได้สวยงาม 

      ชายหาดอ่าวช่องลม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ อยู่เหนือที่ทำการพิทักษ์อุทยานฯ ห่างไปประมาณ 800 เมตร สามารถเดินเท้าขึ้นเนินไปชมดวงอาทิตย์ตก มองเห็น เกาะรอกได้อย่างชัดเจน อีกด้วย 


ภาพ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) 






ขอชวนเที่ยวงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2555..





     ไม่ว่าเวลาจะเนิ่นนานเท่าใด แต่ความเชื่อว่าหากได้นมัสการ และได้ถวายเครื่องสักการะบูชาพระธาตุพนม จะทำให้จิตใจเกิดความสงบเยือกเย็น ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ เนื่องจากองค์พระธาตุพนมไม่เพียงแต่จะเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงเสด็จมาประทับแรมอยู่หนึ่งราตรี 

     ที่ผ่านมาจึงได้มีประเพณีนมัสการพระธาตุพนม เพื่อสมโภชองค์พระธาตุพนมปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนไทย-ลาวสองฟากฝั่งโขง ในงานประกอบด้วยพิธีกรรม งานมหรสพสมโภชเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สำหรับงานนมัสการพระธาตุพนมปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2555 ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม 

     โดยในปีนี้จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในวันเปิดงานวันที่ 31 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระอุปคุตจากริมแม่น้ำโขงแห่ไปวัดพระธาตุพนม พิธีคารวะองค์พระธาตุพนม ถวายข้าวพืชภาค การแห่กองบุญ (ผ้าป่า) รอบองค์พระธาตุพนมจากนั้นจะนำไปถวายวัด การเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม นอกจากนั้นยังมีการรำบูชาพระธาตุพนม การละเล่นพื้นเมือง การแสดงมหรสพสมโภช การออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้านานาชนิด ผู้เข้าร่วมงานหลังนมัสการองค์พระธาตุพนมแล้ว สามารถเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน 

     ที่สำคัญหากใครที่เกิดปีวอก หรือเกิดวันอาทิตย์ การได้ไหว้พระธาตุพนมจะยิ่งเป็นสิ่งมงคลแก่ชีวิต มีอานิสงส์ทำให้ผู้คนเคารพนับถือ เนื่องจากพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ 




ถ้าไม่เริ่มต้นเดินทาง ก็ไม่มีวันค้นพบ...... อยากให้คนไทยไปเที่ยวในประเทศกันเยอะๆนะ :D ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=TXGivl0PB64